สิ่งที่ยากที่สุดในการทำธุรกิจเครือข่าย คือ การเข้าที่ประชุม การเข้าเรียนรู้ เพราะหลายๆคนยังไม่เห็นความสำคัญของที่ประชุมว่าเป็น หรือความสำคัญอันดับแรก สำคัญกว่าการออกไปชวนคนด้วยซ้ำ |
เพราะคนที่เข้าที่ประชุมอย่างต่อเนื่อง จะมีโอกาสประสบความสำเร็จได้มากกว่า คนที่ไม่เข้าเลย หรือ มาๆหายๆ |
การชวนคนไม่ใช่สิ่งที่ยากที่สุด แต่การเข้าเรียนรู้ต่างหาก ที่เป็นเรื่องที่ยากที่สุดในธุรกิจนี้ แต่ถ้าทำได้ ก็ประสบความสำเร็จแน่นอนที่บอกว่าการชวนคนไม่ยาก ก็เพราะถ้าคุณเข้าเรียนรู้ เรื่องการชวนคน มันก็จะทำได้ง่ายขึ้นมาก |
ทำไมเราถึงไม่อยากเข้าที่ประชุม
1. ขี้เกียจเดินทาง ทำงานเหนื่อย,เรียนเหนื่อยแล้ว อยากกลับบ้านพักผ่อนมากกว่า
2. ฟังเรื่องเดิมๆ รู้แล้ว ไม่อยากฟัง
3. ไม่มีทีมงานเข้า เราก็เลยไม่เข้า
4. ไม่มีคนใหม่มา opp ก็เลยไม่รู้จะมาทำไม
5. เลือกรอบที่จะมา มาตามเนื้อหา อยากรู้เรื่องไหน ก็มา ไม่อยากรู้ก็ไม่มา |
ข้อเสียของธุรกิจเครือข่าย ที่ผมพบก็คือ เราไม่มีเจ้านาย เจ้านายก็คือตัวเราเอง ถ้าเราบอกว่าจะไม่มา ก็ไม่มีใครมาบังคับให้เรามาได้ ถ้าเราไม่อยากสำเร็จ ก้ไม่สามารถมีใครบังคับให้เราประสบความสำเร็จได้
มันจึงมีคำถามที่ว่า "วันนี้เรารู้สึกว่าเราเป็นเจ้าของธุรกิจมากแค่ไหน" |
AIMSTAR NETWORK สมัคร 300 สมัครไม่ยาก เราเลยไม่เห็นความสำคัญว่ามันเป็นธุรกิจหลักแสน หลักล้าน ลองว่าค่าสมัคร 1 แสน ผมเชื่อเลยว่า คุณจะทำงานกันอย่างสุดชีวิตเลย |
แรกเริ่มผมก็เป็น คนนึงที่ไม่ชอบการเข้าที่ประชุม เพราะคิดว่ามันคือการเข้าไปนั่งปรบมือ ชื่นชมคนสำเร็จอย่างเดียว แต่พอมาได้สัมผัสจริงๆ ก็พบว่าถ้าเราอยากประสบความสำเร็จจริงๆ เราต้องพัฒนาศักยภาพตัวเองอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทักษะในการพูด การเคลียร์ทัศนคติ การปลูกฝังแนวคิดให้ทีมงาน การดูแลองค์กร ฯลฯ ซึ่งเรื่องต่างๆเหล่านี้ คุณไม่สามารถนั่งหน้าจอที่บ้าน เพื่อเรียนรู้ได้ |
 |
การเรียนรู้ใน ธุรกิจเครือข่าย มันต้องเป็นอะไรที่ "สด" ถึงจะได้ผล เพราะบรรยากาศ มันเอาไปฝากกันไม่ได้ เพราะสิ่งที่เราได้ จากการเข้าที่ประชุมก็คือ |
1. เราจะได้เรียนรู้จากประสบการณ์ ของผู้ที่ประสบความสำเร็จ ในช่วงเวลานั้นๆ ซึ่งนี่เป็นสิ่งที่จำเป็นมากๆ เพราะความรู้ส่วนนี้ ถือเป็นความรู้สะสม ที่เราสามารถนำไปใช้ได้ เมื่อเจอกับสถานการณ์ที่เหมือนกัน |
2. ได้แนวคิด ที่สำคัญ ในการทำธุรกิจ เพราะในธุรกิจเครือข่าย ต่อให้คุณดู BTC ซัก 100 รอบ แต่แนวคิดคุณไม่ผ่าน ก็ไม่สามารถประสบความสำเร็จได้ เพราะ "วิธีคิดสำคัญกว่าวิธีการ" การมาเรียนรู้ จะทำให้คุณได้แนวคิดใหม่ๆ เพื่อนำไปปรับใช้ในการทำงานได้ |
3. ได้รู้จักสังคมใหม่ๆ ซึ่งช่วยสนับสนุนการทำงานของเราได้ ในรอบประชุม จะมีผู้คนหลากหลายมารวมกัน ต่างอายุ ต่างอาชีพ ส่วนตัวผมรู้จักเพื่อนๆพี่ๆ ที่เป็น side line (side line = ผู้ที่ไม่มีส่วนได้ ส่วนเสียในเรื่องรายได้) เยอะแยะมากมาย บางครั้งยังเคยฝาก side line ช่วยสปอนเซอร์ให้ ก็ยังมีมาแล้ว |
4. เนื้อหาการเรียนรู้ใน Center จะทำให้เราทำงานได้ง่ายขึ้น เพราะวันนี้ คุณไม่มีทางที่จะใช้ Upline ไปสปอนเซอร์ให้ได้ตลอดเวลา เพราะ Upline ไม่ได้มีคุณเป็นทีมงานคนเดียว สิ่งที่คุณควรจะเร่งทำก็คือ ต้องสามารถสปอนเซอร์ได้ด้วยตัวเอง แต่คุณจะสปอนเซอร์เองได้ หรือไม่ได้ ก็อยู่ที่ "คุณมาเซ็นเตอร์มากน้อยแค่ไหน" บางคนบอก สปอนเซอร์เองได้ ผมก็มีคำถามกลับไปให้คิดว่า สปอนเซอร์ได้แล้ว คนที่เราสปอนเซอร์มา เค้าไปสปอนเซอร์เองได้มั๊ยที่สำคัญ ลองหันไปมองรอบๆเซ็นเตอร์ แล้วดูว่า มีทีมงานของเรากี่คน ? เพราะถ้าไม่มีเลย แสดงว่า "เรายังสปอนเซอร์เองไม่ได้" |
5. ทำให้เราเห็นแนวทางในการถ่ายทอดเนื้อหา เพื่อนำไปจัด House Metting วันนี้เราไม่ได้เรียนรู้เพื่อรู้อย่างเดียว แต่เราเรียนรู้เพื่อถ่ายทอดด้วย บางคนบอกเนื้อหาซ้ำๆ เดิมๆ แล้วผมก็มีคำถามว่า "เนื้อหาเดิมๆนี้แหละ เราถ่ายทอดได้ดีแค่ไหน" เรารู้แค่พื้นๆ หรือ เรา "รู้จริง" |
วันนี้ลองมองย้อนมาดูว่า สาเหตุที่องค์กรเราไม่เติบโต เป็นเพราะส่วนนึงมาจากที่เราไม่เข้าเรียนรู้รึเปล่า
คน ที่เข้ามาสมัครกับเรา เค้ามีฝัน มีความหวัง อย่าให้ ความฝัน ความหวังของเค้า มาพัง เพราะเราไม่เข้าเรียนรู้ แล้วทำให้ช่วยเหลือเค้าในธุรกิจไม่ได้ หรือได้ไม่ดีเท่าที่ควร |
หัวใจของธุรกิจนี้ คือการเคลียร์แนวคิดของคน คุณจะเคลียร์คนได้ ก็มาจากการรับรู้ รับฟังเยอะๆ คำพูดดีๆ ประโยคดีๆ นิทานดีๆ จะมีที่เซ็นเตอร์เท่านั้น |
ไม่มีอะไรมาการันตีได้ว่า เข้าเรียนรู้แล้วจะประสบความสำเร็จ 100%
แต่ผมการันตีได้ว่า ถ้าไม่เข้าเรียนรู้ ล้มเหลว 100% |
1 ความคิดเห็น:
การเรียนรู้ใน ธุรกิจเครือข่าย มันต้องเป็นอะไรที่ "สด" ถึงจะได้ผล เพราะบรรยากาศ มันเอาไปฝากกันไม่ได้ ความสำเร๊จเกิดจากการเข้าที่ประชุม
แสดงความคิดเห็น